ในปัจจุบัน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษารถยนต์ได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลัก เป็นเพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษารถยนต์มากขึ้น อยากให้รถ ของตนเองมีความสวยงาม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานออกไป และปัญหาสำคัญ ที่มักพบเป็นอันดับต้นๆอยู่เสมอ เมื่อรถยนต์เริ่มมีอายุมากขึ้น คือ เรื่องของสนิมที่บั่นทอนอายุการใช้งานของรถยนต์อย่างลงรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการพ่นกันสนิม รถยนต์เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับความสนใจในปัจจุบัน
ประการแรก เราต้องยอมรับก่อนว่าอะไรก็ตาม ที่ทำจากเหล็กต้องเกิดสนิมขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น อย่างรถยนต์ ที่ส่วนประกอบหลักนั้น ทำมาจากเหล็ก ถ้าเราป้องกันสนิมได้นานเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าเรายืดอายุ การใช้งานของรถยนต์คันนั้นออกไป ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดเงินของ เจ้าของรถในการตัดผุเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ทั้งทรัพยากรธรรมชาติของโลกใบนี้ในทางอ้อมอีกด้วย
สำหรับที่หลายคนคิดว่า การพ่นสนิมไม่จำเป็น เนื่องจากรถทุกคันนั้นมีจะกรรมวิธี ในการป้องกันสนิม ที่ทันสมัยหลายขั้นตอนมาแล้วจากโรงงาน
คงต้องทำความเข้าใจกันเสียใหม่นะคะ เพราะเหล็กที่นำมาใช้ในการขึ้นรูปทำรถยนต์นั้น มีความทนทานต่อการเกิดสนิมมากน้อยไม่เท่ากัน เช่น รถยุโรป กับ รถญี่ปุ่น คุณภาพของเหล็กที่ใช้ก็แตกต่างกันแล้ว นอกจากนี้ ยังมีลักษณะการใช้งาน และพื้นที่ในการใช้งานของ เจ้าของรถ เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย เช่น ผู้ที่ใช้รถในพื้นที่ใกล้กับทะเล ถูกไอเค็มจากน้ำทะเล และความชื้น ยิ่งทำให้เกิดสนิมได้ง่ายขึ้น มีโลหะที่ไหนย่อมเป็นสนิม หรือขี้เกลือเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะโลหะมักจะเกิด การออกซิเดชันได้ตลอดเวลา ถ้าเราไม่รู้จักการป้องกัน โดยเฉพาะโลหะที่อยู่ใกล้ๆ กับไอเค็มยิ่งต้องป้องกันสนิมให้มากกว่ารถทั่วๆไป
ข้อจำกัดของการพ่นกันสนิมรถยนต์ (ที่คุณควรรู้)
- น้ำยาพ่นกันสนิมนั้นมีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้น การพ่นน้ำยากันสนิมนั้น ตัวน้ำยามันยึดเกาะชิ้นส่วนของตัวถัง ทำให้น้ำ หรือความชื้น ไม่สามารถเข้าไปทำอันตรายต่อชิ้นส่วนที่เกิดสนิมได้ จึงเป็นการป้องกันสนิมได้ดี และนอกจากนี้น้ำยากันสนิมบางประเภทยังช่วยซับเสียงได้ดี และช่วยทำให้ห้องโดยสารเงียบขึ้น
- เกิดจากการความรู้ ความชำนาญ และทักษะของคนที่พ่นมากกว่า โดยเฉพาะตามศูนย์จำหน่ายรถที่มักจะเอามาเป็นของแถม ซึ่งขอบอกเลยว่าช่างศูนย์โดยส่วนใหญ่มักจะไม่ได้เป็นมืออาชีพที่เชี่ยวชาญพอ แล้วตัวน้ำยาที่เอามาเป็นของแถม ไม่ทราบว่าใช้น้ำยาเกรดไหน มีคุณภาพมากน้อยเพียงใด น้ำยาพ่นกันสนิมนั้นมันมีหลายชนิด หลายเกรดต้นทุนก็แตกต่างกันไปการพ่นกันสนิมที่ถูกต้องจะไม่พ้นใต้ท้องทั้งหมด!!!
- ส่วนใหญ่น้ำยาพ่นกันสนิม จะมีส่วนผสมของปิโตรเคมี ในเกรด แอสฟัลต์หรือยางมะตอย คุณสมบัติของมันตามที่กล่าวข้างต้นคือ ยึดเกาะและกันความเปียกชื้นได้ดี จึงนำมาใช้ในการป้องกันสนิม แต่ปิโตรเคมีนั้นมีคุณสมบัติในการกัดและทำลายวัสดุที่เป็นยาง หรือวัสดุที่มีส่วนผสมของยางด้วย นั่นคือข้อจำกัดของคำว่าข้อเสียของการพ่นกันสนิม
- ห้ามใช้น้ำยาพ่นกันสนิม มาพ่นหรือสัมผัสกับชิ้นส่วนที่เป็นยาง (แต่ช่างทีไม่มีความรู้เค้าจะพ่นหมดยางหุ้มเพลา, ยางหุ้มโช๊ค รวมถึงยางอะไหล่)
- รถในปัจจุบันนี้ จะมีอุปกรณ์เซ็นเซอร์หลายอย่าง เช่น เซ็นเซอร์ ABS, สปีดเซ็นเซอร์,เซ็นเซอร์ท่อไอเสีย,เซ็นเซอร์แก๊ส เป็นต้น ห้ามพ่นไปโดนเซ็นเซอร์เหล่านี้ แม้แต่ละอองก็ห้ามโดน จะต้องเอาพลาสติกหรือกระดาษมาปิด อุปกรณ์เหล่านี้ทั้งหมด
- ท่อไอเสีย หรือสายเส้นต่างๆ เช่น สายเบรคมือ ห้ามพ่น และห้ามโดนละอองน้ำยา ต้องซีลปิดไว้เช่นกัน
- ในรถบางยี่ห้อ บางรุ่นจะมีช่อง หรือรูระบายน้ำอยู่ใต้ท้องในส่วนต่างๆ ช่างที่พ่นจะต้องรู้ว่ามันอยู่ตรงไหนบ้าง ห้ามพ่นไปปิดรูเหล่านี้ หรือถ้ามีลูกยางปิดรู้อยู่ก็ห้ามพ่นทับลูกยาง เพราะจะอันตรายมาก มันจะเกิดสนิมจากข้างในออกมา ซึ่งกว่าจะรู้ก็ผุจนอยากจะแก้ไขเสียแล้ว
- บริเวณที่ควรพ่น ซึ่งบริเวณนี้มักจะเกิดสนิมได้ง่ายที่สุดก็คือ ขอบซุ้มล้อด้านใน (แต่ช่างที่ไม่เชี่ยวชาญมักจะไม่พ่น) ถึงแม้พ่นกันสนิมแล้วเจ้าของรถก็ควรทำความสะอาดเป็นประจำ ไม่ใช่คิดว่าพ่นกันสนิมแล้วไม่ต้องไปสนใจ สีพ่นกันสนิมมันก็มีสิทธิ์ กระเทาะออกได้ หรืออาจจะมีบริเวณที่น้ำยาเสื่อม เขาถึงให้โปรแกรมเข้าพ่นมากกว่าหนึ่งครั้ง เพราะครั้งต่อๆไปเขาจะดูว่าจะต้องพ่นซ่อมไหน
- ร้านค้าอาชีพ เขาจะมีแผนผังของรถยนต์แต่ละรุ่น ว่าต้องพ่นตรงไหน เราสามารถดูได้เลย และเพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุดคือ เลือกประเภทของน้ำยาที่ช่วยซับเสียงด้วยค่ะ
และสามารถป้องกันได้ตั้งแต่แชสซี ถึงหลังคารถ ภายนอก ภายใน โดยเฉลี่ยในการป้องกัน 95% ของรถ ทำให้คุณมั่นใจได้ 100% ด้วยเครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสี i-Guard
![]() |
เครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสี i-Guard |
โดยอุปกรณ์ของไอ-การ์ด (i-Guard) ทำหน้าที่เหนี่ยวนำประจุลบ(-) โดยแผ่นแอโนด(Anode)ให้ลอยขึ้นมาบนผิวเหล็ก ภายใต้ชั้นสี โดยมีชั้นสีเป็นฉนวน เพื่อปกป้องประจุอิเล็กตรอน ไม่ให้หลุด รั่วออกไปได้ง่ายๆ ดังนั้นจำเป็นจะต้องมีชั้นสี และเมื่อประจุลบ(-)มาเรียงตัวพร้อมหน้าพร้อมตากัน เพื่อรอให้ความชื้น น้ำ อากาศ ความเค็ม ฯลฯ มาดึงประจุอิเล็กตรอนอิสระที่เครื่องของเราสร้างไว้ให้ แทนที่จะดึงจากเหล็ก ก็ดึงจากการที่เราสร้างไว้ให้ ดังนั้นเหล็กจึงไม่มีการสูญเสียประจุอิเล็กตรอนอิสระ เหล็กก็ไม่เป็นสนิม ตราบใดที่เครื่องของเราทำหน้าที่ชดเชยประจุอิเล็กตรอนได้ทันกัน
ซึ่งวิธีนี้จะไม่มีการกัดกร่อนเกิดขึ้น เป็นการป้องกันสนิมที่ต้นเหตุ และได้ผลลัพธ์สูงสุด ติดตั้งครั้งเดียวอยู่ได้นานกว่า 10 ปี แต่ต้องติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญด้านนี้เป็นพิเศษ...
ซึ่งวิธีนี้จะไม่มีการกัดกร่อนเกิดขึ้น เป็นการป้องกันสนิมที่ต้นเหตุ และได้ผลลัพธ์สูงสุด ติดตั้งครั้งเดียวอยู่ได้นานกว่า 10 ปี แต่ต้องติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญด้านนี้เป็นพิเศษ...
![]() |
ตัวกล่องควบคุมจะถูกติดตั้งไว้ใกล้กับแบบเตอรี่มากที่สุด เพราะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ |
เราไม่เคยทำความรู้จัก กับวิธีการป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสี โดยใช้กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 12V. ความเป็นจริง ระบบป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสี มีใช้กันมามากกว่า 40 ปี เริ่มต้นกับเรือเดินทะเล แท่นขุดเจาะน้ำมัน ท่อน้ำมันที่ฝังอยู่ใต้พื้นดิน ปัจจุบันได้มีการพัฒนานำมาติดตั้งในรถยนต์โครงสร้างที่เป็นเหล็ก ผลการทดสอบมีประสิทธิภาพมากโดยมีการติดตั้งในรถยนต์ที่ทดลองใช้มากว่า 20 ปี ได้ผลดีมากสามารถป้องกันสนิมได้ตั้งแต่หลังคารถยนต์ลงมาถึงใต้ท้องรถยนต์รวมถึงแชสซีของรถยนต์ การป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้า จะได้ผลเต็มประสิทธิภาพ ต้องได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ที่ถูกวิธีควรติดตั้งระบบป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสีกับช่างที่ได้รับการอบรมวิธีการติดตั้งจาก i-Guard เท่านั้น
![]() |
ภาพจำลองการเปรียบเทียบของโลหะเหล็กทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศและการปกป้องสนิมภายใต้ชั้นสีของ i-Gurad
|
ถ้าเรารู้หลักการ ของการเกิดสนิม เราก็จะเเก้ไขปัญหาได้ตรงจุด คือการป้องกันที่ต้นเหตุ
- ต้นเหตุของการเกิดสนิม คือ ประจุลบ(-)ในอากาศมาจับคู่กับประจุบวก(+)ของเนื้อเหล็ก ทำให้เกิดการกัดกร่อน(สนิม)ขึ้น แค่นี้เราก็จะทราบวิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุค่ะ
- เครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสี i-Guard ตัวนี้จะทำให้มีประจุลบบนชั้นผิว เมื่อประจุลบในอากาศจะจับคู่กับประจุบวกในเนื้อเหล็ก ก็จะพบกับประจุลบ จึงเกิดการผลักดันไม่ให้เกิดการอ๊อกซิเดชั่นเกิดขึ้นค่ะ นี่คือหลักการทำงานของ i-Guard ที่อธิบายอย่างง่ายๆ ตามภาพจำลองการเปรียบเทียบด้านบนนะคะ
วิธีการป้องกันสนิมที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น การพ่นกันสนิม การทาสีกันสนิม หรือการชุบต่าง ล้วนเป็นการป้องกันที่ปลายเหตุเท่านั้น!!!
เมื่อสีกะเทาะหลุด ก็สามารถเกิดสนิมได้ หรือรถถูกเฉี่ยวชน ก็เกิดสนิมได้เช่นกัน หากแต่..ถ้าเราป้องกันที่ต้นเหตุ เเม้สีจะกะเทาะหลุดออกมา จะเกิดเป็นเพียงสนิมฝุ่นเท่านั้นที่เอามือปัดออกสนิมฝุ่นก็จะหายไป แม้กรณีรถถูกเฉี่ยวชน สนิมก็จะมีแค่บริเวณนั้น และไม่สามารถกินเข้าไปในเนื้อเหล็กได้ นี่คือหลักวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ของ เครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสี i-Guard
iGuard Presentation
เรามองเห็นความคุ้มค่าของผู้บริโภค จึงได้พัฒนาเครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสี i‐Guard มาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี ปัจจุบันได้รับใบรับรองผลการทดสอบการเกิดสนิมโดยอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ สถาบันไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ (ELECTRICAL AND ELECTRONICS INSTITUTE) ภายใต้มาตรฐานการทดสอบ SALT SPRAY IEC 60068‐2‐11,ASTM B117,JIS Z2371 เพื่อรับรองว่าสามารถป้องกันและยับยั้งการเกิดสนิมได้จริง และได้รับการทดสอบพร้อมยืนยันผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ และศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ PTEC สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง EUT Number: 58‐2266 เพื่อรับรองว่าไม่รบกวนระบบไฟฟ้าในรถยนต์ 100 % และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้
![]() |
มูลนิธิ สถาบันไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ |
![]() |
ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ PTEC สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง |
ภาพรถตัวอย่างคันนี้ ติดตั้งเครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้ามากว่า 3 ปี ใช้บรรทุกส่งน้ำ และน้ำเเข็ง สภาพรถอย่างที่เห็น เมื่อก่อนพ่นน้ำมันขี้โล้ พื้นรถเช้าขึ้นมาจะแดงไปด้วยสีสนิม แต่ปัจจุบัน ไม่มีค่ะ
ขอขอบคุณภาพตัวอย่างจาก @ร้านน้ำดื่มวัฒนาเเม่กลอง ที่อนุเคราะห์ภาพในครั้งนี้ค่ะ
ผลิตเเละจัดจำหน่ายโดย
บริษัท นวัชกฤษฎิ์ จำกัด (NAVATKIT CO.,LTD.)
สำนักงานใหญ่ :73 ซอยบางพรม 37 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
สาขา 1 : 925/20-21 ซอยเอกชัย 32 ถนนเอกชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 74000
Mobile : 098-445-6942 , 081-376-0381
Tel : 034-425515 , Fax : 034-425611
Links Site : I-Guardthailand
Link a page : iguard.mahachai
เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี : 0105558005229
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น